บ้านกกกอด – น้ำตกเอราวัณ ฉบับแบกเป้เที่ยว 2 วัน 1 คืน
บ้านกกกอด ใครๆ ก็อยากไปกอดน้ำ กอดเขา และก็กอดธรรมชาติ เราเองก็เช่นกันอะเธอ จริงๆ เราไปเมืองกาญจน์บ่อยมากกก นับครั้งไม่ถ้วน เพราะการเดินทางสะดวกสบาย แบกเป้เที่ยวได้แบบง่ายๆ งี้ … แต่…แต่ว่า… เราก็ยังไม่เคยได้เข้าพักที่ บ้านกกกอด สักที จนครั้งนี้…มีโอกาสได้เข้าพัก เลยเก็บบรรยากาศดีๆ พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ มาฝากจ้าาาา…
การเดินทาง
อย่างที่บอกอะเธอ การเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี สะดวกสบายมาก มีรถตู้ออกทุกๆ ชั่วโมง เราเริ่มต้นที่ท่ารถต่างจังหวัดรังสิต ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ไปลงที่ลาดหญ้า ค่ารถเที่ยวละ 150 บาท จากนั้นต่อรถเมล์ไปน้ำตกเอราวัณ ลงแยกโป่งปัดก่อนถึงน้ำตกเอราวัณ และโทรให้เจ้าหน้าที่ บ้านกกกอด มารับ เป็นอันถึงที่หมายอย่างง่ายดายเธอ
บ้านพัก
บ้านกกกอด บริการห้องพัก 9 ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย บ้านกระท่อมไม้ บ้านริมบึง บ้านวิวเขื่อน บ้านชมดาว บ้านริมน้ำหลังเล็ก บ้านริมน้ำหลังใหญ่ บ้านพฤกษา กระโจมเต็นท์วิวเขื่อน และกระโจมเต็นท์วิวภูเขาวิวสวน ซึ่งแต่ละบ้านแต่ละหลังสไตล์ และวิวจะแตกต่างกันไป รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก บ้านพักทั้งหมด
บ้านของเราเป็นบ้านวิวเขื่อนอะเธอ มีด้วยกันทั้งหมด 5 หลัง ตัวบ้านเป็นกระต๊อบไม้ไผ่ ตั้งอยู่ริมทางเดินไม้ไผ่ ด้านหน้ามีระเบียงให้นั่งเล่น ยามเช้าสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆจากระเบียงบ้านได้เลย หรือยามดึกก็สามารถชมดาวสวยๆ ได้ ภายในบ้านมีเตียงนอน 1 เตียงใหญ่ พักได้ 2 -3 คน มีพัดลม โคมไฟ และปลั๊กสำหรับชาร์จไฟ ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ไม่มีห้องน้ำ ต้องใช้ห้องน้ำรวมซึ่งแยกชาย หญิงให้
บ้านพฤกษา อยู่ติดล็อบบี้ เป็นบ้านหลังยาว 6 ห้อง วิวทิวเขาและสวนสวย พักได้ 2- 3 คน นอกบ้านมีระเบียงนั่งเล่น ในห้องเป็นห้องแอร์ มีห้องน้ำในตัว มีทีวี โคมไฟ ปลั๊กไฟ ไม่มีตู้เย็น เรามีแค่ภาพบรรยากาศด้านนอกนะเธอ ข้างในห้องมีแขกเข้าพักทุกห้องไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ชมได้จ๊ะ
ตรงสวนตันไม้ใบหญ้าเป็นสีเขียวสวย พร้อมดอกไม้กำลังเบ่งบาน เหมาะกับการถ่ายรูปมากมายจ้าาาา…
บ้านชมดาว เป็นบ้านไม้ยกสูง ชั้นเดียว มีระเบียงห้องนั่งเล่น มีดาดฟ้าสำหรับรับลมชมวิวชิลๆ และดูดาวในยามค่ำคืน ภายในเป็นห้องแอร์ มีทีวี พร้อมห้องน้ำในตัวอะเธอ บรรยากาศก็จะได้วิวเขื่อน วิวภูเขา ประมาณนี้
กระโจมเต็นท์วิวเขื่อน เป็นกระโจมไม้ไผ่ยกสูงใกล้ๆกับบ้านวิวเขื่อน มีด้วยกัน 2 หลัง แต่ละหลังมีระเบียงนั่งเล่น ภายในมีพัดลม โคมไฟ ปลั๊กไฟ ใช้ห้องน้ำส่วนกลาง ช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนตุลาคม บ้านกกกอด จะงดให้บริการกระโจมเต็นท์วิวเขื่อน เนื่องจากเป็นห่วงความสะดวกของผู้เข้าพักอะเธอ เพราะฉนั้นช่วงที่เราไป ก็จะเห็นเป็นกระโจมไม้ไผ่โล่ง ๆ แบบนี้
สะพานไม้ไผ่ และท่าเรือ
ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของ บ้านกกกอด ก็ว่าได้ เป็นสะพานไม้ไผ่ ทอดยาวผ่านป่ากก ออกไปชมวิวภูเขาวิวเขื่อน ระหว่างทางเดินบนสะพานก็จะมีมุมให้นั่งพัก นั่งถ่ายรูปเซลฟี่ตลอดทาง ที่ปลายสะพานจะมีแพไม้พร้อมเรือคายัคให้พายเล่น เป็นจุดที่สามารถชมวิวได้อย่างสวยงามอะเธอ เช้าๆ ออกมาพายเรือ ชมดวงอาทิตย์ขึ้น อย่างฟินเลยจะบอกให้
มีด้วยกัน 2 สะพานอะเธอ สะพานแรกเมื่อเราหันหน้าออกเขื่อน จะอยู่ซ้ายมือจ๊ะ
สะพานที่สองจะอยู่ขวามือติดกับห้องอาหาร อะเธอ
ห้องอาหาร
จะอยู่ติดสะพานไม้ไผ่ฝั่งขวามือ เมื่อหันหน้าออกเขื่อน เป็นห้องอาหารเปิดโล่งๆ 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นปูน ส่วนชั้นสองเป็นไม้ วิวชั้นสองคือปังมากอะเธอ มองเห็นเขื่อน และภูเขาได้อย่างสวยงาม พร้อมมีเปลนั่งเก๋ๆ ให้ด้วย เหมาะกับการถ่ายรูปสุดๆ งี้
อาหารมื้อเช้าข้าวต้มจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ตักทานได้ไม่อั้น ส่วนอเมริกันเบรคฟาสจะเสิร์ฟให้เป็นเซ็ทจ้าาา… ในส่วนของเครื่องดื่มก็จะมีโอวัลติน และกาแฟ ประมาณนี้ อะเธอ
มื้อเย็นจะเป็นแบบขันโตก เสิร์ฟถึงห้องพักอะเธอ ประกอบด้วยกับข้าวประมาณ 5 อย่าง ลูกค้าที่ต้องการรับมื้อเย็นต้องแจ้งกับทางรีสอร์ท และต้องจ่ายเพิ่มจ้าาา..
สนใจเข้าพักบ้านกกกอด สอบถามเพิ่มเติม โทร.085-519-1953, 092-580-0058
น้ำตกเอราวัณ
รุ่งเช้าอีกวัน หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ก็เช็คเอ้าท์ และให้เจ้าหน้าที่ บ้านกกกอด ออกมาส่งที่แยกโป่งปัดอะเธอ รอรถไปเที่ยวเอราวัณต่อ ซึ่งรถจะออกทุกๆ ชั่วโมง รออยู่พักหนึ่งรถก็มา เอาจริงๆ น้ำตกเอราวัณ เราเคยไปเที่ยวมาแล้ว หลายครั้งด้วย ที่สำคัญเป็นที่แรกที่เราแบกเป้เที่ยว และเป็นที่แรกที่เราไปฝึกถ่ายรูปด้วยเช่นกัน คือมันเดินทางง่ายและสะดวกไงเธอ เช้าไป – เย็นกลับ งี้
น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่สวยงามและขึ้นชื่อของจังหวัดกาญจนบุรี มีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่ 7 เป็นชั้นที่อยู่บนสุด การเดินทางค่อนข้างไกลอะเธอ แต่ค่อนข้างสะดวกเพราะเจ้าหน้าที่ได้ทำบันไดเดินให้ บางช่วงเดินชิลๆ บางช่วงต้องปีนป่าย คนไม่แข็งแรงอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางไปและกลับ เราไปมาแล้ว 6 ครั้ง พิชิตถึงชั้น 7 เพียง 2 ครั้ง ที่เหลือถึงแค่ชั้น 3 จ๊ะ ครั้งนี้ก็เช่นกัน 55555++
ฝนไม่ตกหลายวัน น้ำเป็นสีเขียวมรกตสวยงามเลยทีเดียวเธอ ถ่ายรูปสนุกเลย ที่สำคัญนักท่องเที่ยวไม่เยอะด้วย เพราะมาวันธรรมดา ทุกทีมาวันเสาร์ อาทิตย์ นักท่องเที่ยวเพียบบบบ งี้
ชั้นที่สวย และเป็นไฮไลท์ของน้ำตำเอราวัณ คือชั้นที่ 2 “วังมัจฉา” อะเธอ อยู่ไม่ไกล เดินแป๊บเดียวถึง สะดวกด้วย ปกติถ้าเป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวจะแน่นมากกก แทบไม่มีมุมให้ถ่ายรูป แต่วันนี้เลือกมุมได้ตามใจชอบเธอ
จากชั้นที่ 2 เดินขึ้นไปอีกหน่อย ประมาณ 150 เมตรก็จะเป็นชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก” ชั้นนี้จะเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกต โอบล้อมด้วยหน้าผาสูง ในแอ่งน้ำจะชุมไปด้วยปลาพลวง เวลาเราเอาเท้าจุ่มน้ำปลาพลวงจะมารุมตอดเราอะเธอ คือตอนไปครั้งแรกๆ ปลามันยังตัวเล็กตอดทีก็จะสนุกดี ฟินด้วยงี้ แต่ครั้งหลังๆนี้รู้สึกว่าปลามันจะตัวโตขึ้น โตขึ้นมากด้วย ตอดทีสะดุ้งและเจ็บปวด งี้…
อย่างที่บอกอะเธอ เราถึงแค่ชั้นที่ 3 แค่นั้น ขี้เกียจเดินต่อ จริงๆ ชั้นบนๆ ก็สวยงามแตกต่างกันไป โดยเฉพาะชั้นเจ็ดซึ่งเป็นชั้นที่น้ำตกไหลเป็นทางยาวจากหน้าผาสูงชันดุจดั่ง “ภูผาเอราวัณ” ไปทั้งทีก็ไปให้ถึง ไปให้สุดนะเธอ ห้ามพลาดเด็ดขาด
ขอบคุณที่ติดตามจ๊ะ
เจอกันทริปถัดไปเธอ
“ตากล้อง ท่องเที่ยว”
Facebook page : ตากล้อง ท่องเที่ยว
IG : taklongtongteaw