เที่ยว เซี่ยงไฮ้ กับบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ
สวัสดี เธอ…
เมื่อก่อนคำว่า “เที่ยวต่างประเทศ”
เรารู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไกลตัวมาก
สุดที่จะเอื้อม ยากที่จะจับต้องได้ ไรงี้
คือแบบว่าค่าใช้จ่ายก็แพง
ภาษาก็ไม่ได้ ความกล้าก็ไม่มี ขี้กลัวอีกต่างหาก
ถ้าไปเอง มีหวังไส้แห้งตายแน่ ๆ
นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่คิด
และไม่ฝันที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ…เลย
อยู่ๆ ส้มหล่น เธอ
ทำงานประจำครบ 10 ปี
บริษัทพาไปเที่ยวญี่ปุ่น
ย้ำ!! ญี่ปุ่น นะเธอ
โอ้ววว โหววว คือแบบดีงามสุดๆ ที่สุดในชีวิตเรา
ประมาณว่าชีวิตนี้คงไม่มีอีกแล้ว อะไรเบอร์นั้น
ก่อนวันเดินทาง
ขอบอกว่าตื่นเต้นสุด ๆ
กินไม่ได้ นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว (เวอร์)
ทริปแรกผ่านไปแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เธอ
และก็นานมาก กว่าทริปสองจะมา และตามด้วยทริปที่สาม
สำหรับทริปนี้
“เที่ยว เซี่ยงไฮ้ กับบัตรเครดิตแอร์เอเชีย
แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ”
เป็นทริปที่ 4 แล้ว ที่เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศ
ทั้ง 4 ทริป เราไม่ได้ไปเอง นะเธอ
เกาะเขาไปทั้งนั้น 55555+++
เพราะฉะนั้นการเดินทางไปแต่ละสถานที่
ไม่ต้องถามเรา น๊าาา
ถามอากู๋โลดดดดด!!! เคนะ
เอาหละ!! โม้วววเยอะเดี๋ยวจะปิดหนีกันก่อน
เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า
ทริปนี้ เราเดินทางไปกับสายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
บินตรงจาก สนามบินดอนเมือง
สู่ สนามบินผู่ตง มหานครเซี่ยงไฮ้
ซึ่งมีเที่ยวบินทุกวัน วันละ 1 เที่ยว
คือดีงาม เธอ
ออกจากสนามบินดอนเมืองเที่ยงคืน
ไปถึงสนามบินผู่ตงก็สว่างพอดี
ลงเครื่องปุ๊บ เที่ยวต่อทันที ไม่ต้องเสียเวลา
ยิ่งมี บัตรเครดิตแอร์เอเชีย แพลตทินัม
มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ
ยิ่งดีงามคุณสอง เพราะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
ตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น
1. Xpress Check in บริการเคาน์เตอร์เช็คอินพิเ
2. Xpress Boarding บริการขึ้นเครื่องบินก่อนใค
3. Xpress Baggage บริการรับกระเป๋าก่อนใคร
4. บริการเครื่องดื่มร้อนหรือเ
5. รับบัตรกำนัล upgrade ที่นั่งเป็น Hot Seat 4 ใบต่อปี
6. รับบัตรกำนัลโหลดสัมภาระใต้
7. ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร 20 บาท ได้ Big Point 1 แต้ม
8. รับ Big Points 3 เท่า เมื่อชำระค่าบัตรโดยสารเครื
9. Priority Booking เอาไว้จองโปรฯ เด็ดๆ จากแอร์เอเชีย 24 ชม. ล่วงหน้าก่อนใคร
.
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://
บัตรเดียวผ่าน เธอ
รับเครื่องดื่มเย็น -ร้อน ฟรีมูลค่า 60 บาท
ลงเครื่องปุ๊บ รับกระเป๋าก่อนใคร
ผ่าน ตม. รับกระเป๋า
แล้วก็ไปจัดมื้อเช้ากันต่อที่โรงแรม
แอร์พอร์ต โฮเทล เซ้าท์
ตามด้วยนั่ง Maglev รถไฟระบบแม่เหล็กไฟฟ้า
ที่เร็วที่สุดในโลก 430 กม./ชม. เข้าเมือง
คือแบบว่ามันเร็วมาก เธอ
ระยะทางเข้าเหมืองกว่า 30 กิโลเมตร
นั่ง 5 นาทีกว่าๆ ถึง เธอ
แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วก้ โหดเหมือนกัน
ส่วนมากพวกนักธุรกิจใหญ่ๆ
เขาไว้นั่งกัน ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เธอ
อย่างเราๆ มีโอกาสไปที ลองนั่งดู ก็ดีเหมือนกัน
คันนี้หละ!! ที่เรานั่งเข้าเมืองกัน
จุดแรกที่เราไปเที่ยวคือ
Shanghai Tower เธอ
เป็นตึกสูงที่สุดในประเทศจีน
และสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
แต่กลับมีจุดชมวิวที่สูงกว่า อยู่ที่ชั้น 118
คือแบบว่า มโนสุดๆ ว่าขึ้นไป
มองลงมาคงเห็นเมืองเซียงไฮ้ อย่างเวอร์วัง ไรงี้
แต่ที่ไหนได้ เธอ
ฟ้า ฝน กลั่นแกล้ง มองไปทางไหน
ขาวโพลนไปหมดเลย ข้างล่างก็มองไม่เห็น
ข้างบนก็ขาว คือน่าเศร้าใจมาก เธอ
เป็นอะไรที่สูงมากกกกก เลนส์ไวด์ยังเก็บไม่หมด
ภายในชั้นที่เปิดให้บริการชมวิว
มีบริการถ่ายภาพสวยๆ มุมเก๋ๆ แปลกๆ ด้วย เธอ
อยู่ๆ ฟ้าก็เปิด แต่…ไม่กี่วินาทีก็ปิดเหมือนเดิม
จากตึกที่สูงที่สุดในจีน
เราก็ไปต่อกันที่อุโมงค์เลเซอร์ (The Bund sightseeing tunnel)
ซึ่งเป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำแห่งแรกในประเทศจีน
ในอุโมงค์ เวลาเรานั่งรถผ่าน
จะมีการฉายแสงเลเซอร์ตลอดเส้นทาง
ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย สวยงาม
เวอร์วังมาก เธอ
รถรางมินิ แลดูเก๋น่ารัก คันนี้แหละที่จะพาเราลอดอุโมงค์เลเซอร์
แสงเลเซอร์ที่ถูกยิงลงบนผนังอุโมงค์ ด้วยรูปแบบต่างๆ
แสงเลเซอร์ที่ถูกยิงลงบนผนังอุโมงค์ ด้วยรูปแบบต่างๆ
จริงๆ มันสวยและเวอร์วังมาก เธอ แต่ฝีมือเราไม่ถึง จึงได้ภาพมาแค่นี้
ขึ้นจากอุโมงค์เลเซอร์
เดินไปอีกหน่อยก็เป็นหาด Waitan (ไว่ทัน)
หรือ “หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้”
เหมือนประมาณว่าหาดนี้เป็นที่อยู่ของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
และเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ไรงี้
แทบไม่น่าเชื่อ เธอ
เมืองจีนที่เรามโนไว้
คงเป็นอะไรประมาณว่า เหมือน ๆ เยาวราช บ้านเรา
แต่ เธอ …
แต่ เมืองจีนที่หาดไว่ทัน ไม่ใช่อย่างที่เรามโน เธอ
ดู ๆไป มันก็คล้ายๆเมืองปารีส อะไรเบอร์นั้น
แต่เป็นที่น่าเสียดาย
วันนี้ ฟ้า ฝน ไม่เป็นใจ ตั้งแต่เช้าแล้ว
อากาศหนาวๆ ฝนปรอยๆ เมฆครึ้มทั้งวัน
ทำให้อดได้ภาพงาม ๆ มาอวด เธอ เธอ และ เธอ
มุมไฮไลท์ของหาดไว่ทัน
สถาปัตยกรรม คือแบบว่าปารีส ชัดๆ ยิ่งได้อากาศหนาวๆ ฝนปรอยๆ คือแบบว่า เป๊ะมากก
เดินตากฝนที่หาดไว่ทัน ประมาณชั่วโมงกว่าๆ
เราก็ไปต่อไปกันที่
Shanghai Museum
ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมวัตถุโบราณเก่าแก่
ไว้มากมายหลายแสนชิ้น
พร้อมเรื่องราวความเป็นมาของจีนแผ่นดินใหญ่
พิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 4 ชั้น
แต่ละชั้นแบ่งเก็บวัตถุโบราณไว้อย่างเป็นหมวดหมู๋
แตกต่างกันไป คือมันเยอะมาก เธอ
เยอะจริงๆ ถ้าจะดูให้ละเอียด
ชมกันทุกซอก ทุกมุม ทุกชิ้น
1 วันก็ไม่พอ เธอ
ถ้า เธอ สนใจเรื่องประวัติศาสตร์จีน
เธอ ไม่ควรพลาด
เพราะที่นี่ ที่เดียว ครบเกือบทุกเรื่องราวของจีน ประมาณนั้น
เหรียญโบราณ
จุดต่อไปที่เราไปเที่ยวกันคือ
ตลาดเฉินหวังเมี่ยว หรือตลาด 100 ปี
เป็นตลาดเก่าของผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้
อาคารบ้านเรือนบริเวณนี้
เป็นสถาปัตยกรรมโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและชิง
ตกแต่งสไตล์สถาปัตยกรรมแบบโบราณจีน อายุเก่ากว่าร้อยปี
ที่ยังคงความงดงาม ทั้งร้านขายอาหาร
ร้านขนมพื้นเมืองอาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ
เสี่ยวหลงเปา อันลือชื่อ
และยังมีขายของที่ระลึกต่างๆมากมาย
ของที่ละลึกส่วนใหญ่จะประมาณของโอทอป ของไทย
ซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมือง ดั้งเดิม ไรงี้ เธอ
เสี่ยวหลงเปา ห้ามพลาด เธอ ไซส์บิ๊กบึ้มก็มี เธอ
คือฝนตก และหนาวมาก เธอ
ไม่มีกะจิตกะใจที่จะเดินเที่ยว
หาร้านอุ่นๆ หลบฝน รอเวลากลับ แค่นั้น
ช็อป เที่ยว กันเสร็จ ก็ไปช็อปต่ออีกที่
ถนนนานจิง ย่านช็อปปิ้งของแบรนด์เนม แบรนด์ดัง
ที่นี่เต็มไปด้วยห้างใหญ่ ห้างโต
เยอะแยะมากมาย และมีถนนคนเดิน
ไว้ให้นักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ
เดินช็อปปิ้ง พร้อมๆ กับชมแสงสี
ของเมืองเซียงไฮ้
ขอบอกว่า เธอ เธอ เธอ ที่เป็นผู้ชายไปเที่ยว
โปรดระวัง และความคุมอารมณ์ของท่านไว้ให้ดี ๆ
เพราะ ระหว่างที่เราเดินเที่ยว
จะมีหญิงสาว หมวยๆ เซกซี่ ๆ
เข้ามาทัก มาชวนไปร้านน้ำชา
หรือไปร้านนวด ซึ่งมีเยอะมากกกก
ถ้าพลาดไปกับพวกนาง
งานกระเป๋าแบน งานกระเป๋าขาด
หรืองานเอาชีวิตไม่รอด จะตามมา โปรดระวังเธอ
เสร็จการการช็อปปิ้ง
ก็ปิดท้ายทริปวันแรกด้วยมื้อเย็นที่
Golden Jaguar เป็นร้านอาหาร บุฟเฟ่ต์ เธอ
ของกินเยอะมาก เยอะจริงๆ
หัวละประมาณคนละ 1100 บาท (220 หยวน)
คือแบบเวอร์วังมาก ทั้งซีฟู๊ด อิตาเลี่ยน
จีนดังเดิม หรือจะญี่ปุ่น เพียบบบบบ
คุ้ม บอกเลย
จัดมื้อเย็นหนัก ๆ ก็กลับเข้าโรงแรม
พักผ่อนเอาแรง เธอ
ทริปวันที่สองเริ่มต้นที่หาดไว่ทัน…อีกรอบ
เหมือนเดิม เธอ ฝนตก ฟ้าครึ้ม ไร้แสง ไร้เงา
อัยยะ!! มีธนาคารกรุงเทพ ด้วยเธอ น่าจะเป็นตึกเดียวในย่านนี้ที่มีภาษาไทยให้อ่าน 55555++
ไปต่อกันที่ย่านซินเทียนตี้ ย่านสุดฮิป เธอ
ใครที่ชอบ ชิคๆ คูลๆ เขาบอกว่าห้ามพลาดย่านนี้
เพราะร้านนังชิว มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เพียบ
ที่สำคัญ ที่นี่จะคึกคักไปด้วยวัยรุ่น
อารมณ์ประมาณสยามบ้านเราไรงี้
พอดีวันที่เราไป ไปเช้า
เลยดูเงียบๆ ไม่คึกคักเท่าไหร่ เธอ
เดินชม เดินถ่ายรูป บลาๆ
จากนั้นเพื่อนก็พานั่งแทกซี่
ไปช๊อปที่ถนนนานจิง อีกรอบ
ก่อนจะเดินย้อนกลับมาชม
บรรยากาศช่วงเย็นที่หาดไว่ทัน
อันเป็นไฮไลท์สำคัญในยามค่ำคืน
ที่ห้ามพลาดกับแสง สี ที่หลากหลาย
จากหลอดไฟในอาคารสูง
และเราปิดท้ายทริปวันที่ 2 ด้วยมื้อเย็น
สไตล์เสฉวน ที่ภัตตาคารเสฉวน
ส่วนตัวเราชอบอาหารร้านนี้มาก
เพราะรสจัด เผ็ด ใกล้เคียงกับ
รสชาติอาหารอีสานบ้านเรา เธอ 55555++
ทริปวันที่ 3
สองวันที่ผ่านมา เราเน้นในเมืองซะส่วนใหญ่
วันนี้ เราออกนอกเมือง
ไปชมเมืองเก่าแก่อายุเกือบ 400 ปี เธอ
เป็นเมืองที่ยังคงความเป็นจีนแท้ๆไว้
ทั้งบ้านเรือน อาหาร การอยู่ การกิน
และวิถีชีวิตที่ยังคงพึ่งเรือ พึ่งสายน้ำในการเดินทาง
นั้นคือ “เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว”
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ
การล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำ
สัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอย่างใกล้ชิด
แวะชิมอาหารพื้นเมือง
แวะชม แวะชื้อของฝากของใช้ ประมาณนี้ เธอ
นางเป่าได้ไพเราะมากก เรายืนฟังนางเป่าตั้งหลายเพลง
ผลไม้ แลดูคุ้นตามากๆ
เราอยู่ที่ “เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว”
จนถึงครึ่งวัน จากนั้นก็ต่อ “ดิสนี่ย์แลนด์”
เมืองแห่งเทพนิยาย ซึ่งพึ่งเปิดได้ไม่กี่ปี
แลดูยิ่งใหญ่ ตระการตามากมาย เธอ
ทั้งของเล่น การแสดงโชว์
และสถานที่ เวอร์วังกันทั้งนั้น
เราไปถึงช่วงที่มีขบวนโชว์พอดี เธอ
อลังการ แลดูยิ่งใหญ่สุด ๆ
ตัวการ์ตูนที่เราเคยเห็นในทีวี
ออกมาเดินขบวนกันเพียบ
เห็นแล้ว เหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ไรงี้
ดูขบวนโชว์เสร็จเราก็ไปสำรวจที่อื่น ๆต่อ
จริงๆ อยากเข้าไปเล่นของเล่นนะ
แต่ภาษาเราไม่ได้ เลยทำได้แค่เดิน
ถ่ายรูปเรื่อยเปือย
เราอยู่รอชมการจุดพลุที่เซี่ยงไฮดิสนีย์แลนด์
จากนั้นก็กลับทีพัก
ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สนามบินผู่ตง
และเดินทางกลับไทยด้วย
สายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
ในเช้าของวันรุ่งขึ้น เป็นอันจบทริป
ขอบอกว่าเซี่ยงไฮ้
มีอะไรหลายๆ อย่างที่เซอร์ไพรส์มากกกก
สำหรับเรา และถือเป็นอีกเมือง
ที่คนชอบเที่ยวไม่ควรพลาด
ขอบคุณ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
และธนาคารกรุงเทพฯ ที่ให้โอกาส
ตากล้อง ท่องเที่ยว ได้เป็นส่วนหนึ่งของทริปนี้
..
และขอบคุณ เธอ เธอ เธอ
ที่ติดตามกันจนจบ
แล้วเจอกันอีกครั้งครับ