เช็คอินประเทศไทย โรงแรม-รีสอร์ท
สยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา
สยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา
เดินทางสู่พัทยา เมืองแห่งชีวิตชีวาของฝั่งทะเลตะวันออก
ร้อนๆอย่างนี้หากจะหาสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจคลายร้อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมว่า พัทยา นี่แหละ เป็นที่แรกๆที่ผมหรือหลายๆคนคงจะนึกถึง เพราะใกล้กับกรุงเทพฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ที่น่าสนใจอยู่หลายที่มากๆ และแน่นอน เมื่อมาท่องเที่ยวแล้วโรงแรมที่พัก ทำเลดีๆ สะอาดๆ และการบริการที่ดีเยี่ยม ก็เป็นเรื่องสำคัญพอๆกัน ที่จะทำให้วันหยุดพักผ่อนของเรานั้นกลายเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษและน่าจดจำ
สยามเบย์ชอร์ (Siam Bayshore Resort, Pattaya) โรงแรมในเครือของ Sukosol Hotels ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่อยากจะขอแนะนำให้มาลองใช้บริการดูครับ ทางตากล้องท่องเที่ยวเองก็ได้มีโอกาสเข้าไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดของต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทางโรงแรมที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เราไปพักผ่อนในครั้งนี้ด้วยครับ ^0^
มุ่งหน้าสู่พัทยา
เช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 59 เราออกเดินทาง โดยขับรถจากกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่เมืองพัทยา ใช้เส้นทางด่วนบางนา-ตราด ไปบางปะกง ชลบุรี และศรีราชา ใช้เวลาราวสองชั่วโมงก็ถึงพัทยาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการเลี่ยงตัวเมืองชลบุรี ก็สามารถเลือกใช้เส้นทาง ทางหลวงที่ 36 หรือก็คือ เส้นทางใหม่ชลบุรี-พัทยา-ระยอง ก็ได้เช่นเดียวกัน
ทำเลที่ตั้ง : ทางเข้าด้านหน้าของโรงแรม ติดกับถนนเลียบหาดชายหาด วิ่งทะลุสุดถนนคนเดิน (Pattaya Walking Street) ก่อนถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ส่วนทางเข้าด้านหลังติดกับถนนพัทยาสาย2

ผมขับรถเข้ามาทางด้านหลัง โดยผ่านถนนพัทยาสาย2 โดยเมื่อขับเข้ามาจะเจอลานจอดรถที่ดูร่มรื่นมากๆเลยทีเดียว ขับผ่านลานจอดรถวิ่งตามป้ายเพื่อไปเช็คอินที่ Lobby ด้านหน้า(อาคารโอเชี่ยนวิง)
เมื่อมาถึงแล้วก็เช็คอิน โดยจะมี Welcome Drink ไว้ต้อนรับเพื่อดับกระหายแก่แขกผู้มาเยือนทุกท่าน
สำรวจภายนอก
หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเก็บข้าวของและสำรวจห้องพักของเราในทริปนี้ ซึ่งห้องพักของเรานั้นจะอยู่ในโซนริมสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต้องบอกว่าผมรู้สึกชอบโซนนี้มากๆเลย (รู้ใช่ไหมว่าคิดผมคิดอะไรอยู่^+++^)

โซนนี้เรียกว่า ห้องพักทรอปิคอล ดีลักซ์ ที่กว้างถึง 40 ตร.ม. รวมทั้งเตียงคิงไซส์ หรือเตียงคู่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ และตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสีเขียวขจี ดูร่มรื่นมากๆ ทำให้ได้บรรยากาศการพักผ่อนสบายๆ แบบเขตร้อน หน้าต่างบานใหญ่ เปิดออกสู่ระเบียง ชมความงดงามของสวน และสระจากุดซี่ขนาดใหญ่พร้อมสไลเดอร์ ที่สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ภาพมุมสูงมองจากด้านบนลงมายังที่พักของเรา
ห้องพักของเราในทริปนี้ มาดูข้างในกันเลย
ด้านหลังจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เปิดออกสู่ระเบียงและมีโซฟานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชิลๆ สบายๆ ริมสระน้ำขนาดใหญ่ ^0^
เตียงคู่ มีบ้านหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดออกไปก็เป็นขอบสระว่ายน้ำแล้ว ^0^
อ่างอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำอยู่ซ้ายมือ ตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้า และขวามือจะเป็นห้องอาบน้ำมีกระจกใสกั้น
ของใช้สำหรับอาบน้ำล้างหน้า มีให้ครบ อย่างละ 2 ชุด
มินิบาร์
เครื่องดื่มและขนมในตู้แช่
เก็บข้าวของและสำรวจภายห้องพักของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เราไปสำรวจมุมต่างๆบริเวณรอบๆโรงแรมกันบ้าง จะมีมุมไหนน่าสนใจ ไปดูกันเลย
วิวด้านหน้าโรงแรม ติดชายทะเลใกล้กับท่าเรือแหลมบาลีฮาย
วิวชายหาดด้านขวาของโรงแรม ตั้งแต่ถนนเลียบชายหาดมาจนถึงถนนคนเดิน
ด้านซ้ายของโรงแรมติดกับท่าเรือแหลมบาลีฮาย และด้านข้างติดกับสนามแข่งโกคาร์ท

ข้ามถนนมาด้านหน้าจะมีส่วนของ Beach Club สามารถว่ายน้ำ หรือสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งชิลล์ รับลมชมทะเล กันตรงส่วนนี้ได้เลย ส่วนของบาร์ เปิด 8.00-18.00 น.
สำรวจพื้นพี่ด้านนอกกันพอสมควรแล้ว คงจะพอเห็นภาพโดยรวมแล้วว่า สยามเบย์ชอร์นั้นตั้งอยู่บนทำเลที่ดีเยี่ยม และมีพื้นที่กว้างขวางมากๆ มีขนาดถึง 44 ไร่เลยทีเดียว และเป็นโรงแรมริมชายหาดที่ดูจะร่มรื่นเอามากๆ มองจากภาพมุมสูงแล้วจะเห็นต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ อยู่เต็มไปหมดเลย
Cooking Class
หลังจากสำรวจพื้นที่โดยรอบแล้ว ทางโรงแรมก็มีกิจกรรมพิเศษ นั่นคือสอนการทำอาหาร ถ้าท่านใดสนใจก็สามารถซื้อแพกเกจนี้เพิ่มเติมได้นะจ๊ะ ซึ่งหลังจากทำเสร็จแล้วเราจะร่วมกันรับประทานอาหารกลางวันที่เราได้ลงมือทำกันในครั้งนี้ด้วย ส่วนวันนี้จะมีเมนูอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
ทำไปชิมไป สนุกและอิ่มจุง^^
เสร็จแล้ว!! ยำไก่กรอบสมุนไพร และทอดมันปลาทูนึ่ง หน้าตาน่าทานไหม ^^
วันนี้เราตั้งใจเรียนทำอาหารด้วยกัน 3 เมนู นั่นก็คือ มีต้มจี๊ดจ๊าด ซี่โคร่งหมูอ่อน, ยำไก่กรอบสมุนไพร และทอดมันปลาทูนึ่ง ส่วนเมนูอื่นๆ ทางโรงแรมจัดให้ เราก็ตั้งใจทานเหมือนกันนะ ^^’
มุมนี้ชิลล์-มุมนี้ใช่
ทานข้าวกันอิ่มหนำแล้ว ผมก็มาเดินย่อยอาหาร และหามุมนั่งชิลล์ๆ นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อน ซึ่งอย่างที่บอก ผมชอบมุมริมสระน้ำกลางแจ้งตรงนี้มากที่สุด ^+++^
จิบค๊อกเทลรสชาติเยี่ยม ริมขอบสระ นั่งดูผู้ชายเล่นน้ำ…เย้ยยย..ไม่ใช่ล่ะ นั่งดูเด็กๆเล่นน้ำสิ น่ารักดี (เป็นคนรักเด็กนะ^++^)
การ์เด้น พาวิลเลี่ยน คาเฟ่ อีกมุมหนึ่งที่ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองหาอะไรทำในช่วงเวลาว่าง ซึ่งจะได้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศเขียวชอุ่มของสวนพันธุ์ไม้ฤดูร้อน
ผ่อนคลายไปกับร่มเงาของต้นไม้ และเพลิดเพลินไปกับของว่างเบาๆ อาหารเที่ยงแบบจานด่วน หรือเครื่องดื่มค็อกเทลเย็นๆเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น.
และบริเวณนี้ยังมีในส่วนของ โลตัส สปา ด้วยนะ เพื่อมอบความสุข ผ่อนคลาย ฟื้นฟู และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงอารมณ์ของคุณ พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ตกแต่งด้วยโทนสีสบายตา และกลิ่นหอมอ่อนโยนของดอกบัว เครื่องเรือนไม้สัก ทั้งยังมีน้ำใสสะอาด ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม และเงียบสงบ
สำรวจภายใน
บ่ายแก่ๆ ได้เวลาสำรวจห้องพักแบบต่างๆแล้ว ว่าจะอะลังการ หรูหราเพียงไหน ไปดูกันเลยจ้า
Tropical Deluxe Room
ภายในห้องจะเป็นแบบเดียวกันกับห้องที่ผมพักในทริปนี้ แต่ที่พิเศษ ที่จะพาไปแนะนำ นั่นก็คือแนวรักษ์โลก เป็นห้องแบบ Eco-room โดยทางโรงแรมมีแนวความคิดที่อยากจะทำห้องที่อนุรักษณ์พลังงาน เพื่อลดโลกร้อน จะแตกต่างกับห้องธรรมดาอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ
หลอดไฟภายในห้องจะเป็นแบบหลอดประหยัดไฟทั้งหมด โถชำระห้องน้ำเป็นแบบประหยัดน้ำ
โซฟาและผ้าม่านจะเป็นสีเขียวเพื่อประหยัดพลังงานในการซักฟอก
มินิบาร์จะเป็นสินค้าOTOP และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ถังขยะแบบแยก
—————————–
Ocean Deluxe Room
ขนาดห้องกว้างถึง 40 ตารางเมตร และเต็มไปด้วยกลิ่นอายบรรยากาศของทะเล มองเห็นวิวแหลมบาลีฮาย พร้อมพื้นไม้ผสมผสานลงตัวไปกับการตกแต่งซึ่งคงความงดงามในแบบไทย และความทันสมัย
ภายในแต่ละห้องนั้นจะมีเตียงคิงไซส์หนึ่งหลัง หรือเตียงคู่ และระเบียงส่วนตัวซึ่งมาคู่กับเก้าอี้แสนนุ่มสบายให้ได้นั่งซึมซับความงดงามของอ่าวพัทยา
—————————–
ห้องประเภท Deluxe Suite
ห้องขนาดใหญ่ โอ่อ่าตั้งแต่ 98-124 ตารางเมตร ทั้ง 9 ห้องนี้มาพร้อมกับเตียงควีนไซส์ทั้งหมด 2 หลัง
ตั้งอยู่ภายในบริเวณของตึกโอเชี่ยนวิง เหนือล็อบบี้
ภายในแต่ละห้องนั้นจะมีระเบียงซึ่งเมื่อเปิดออกกว้าง จะพบกับวิวทิวทัศน์ของทะเลที่สวยงาม สวนเขียวขจี หรือสระว่ายน้ำ พร้อมด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องรับแขก ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องรับประทานอาหารและห้องครัว เปรียบดั่งสวรรค์ของคนที่ต้องการมาพักผ่อนแบบส่วนตัว
Deluxe Suite >> Chinese Theme
เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ ตกแต่งให้อารมณ์แบบเหมือนย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองจีนแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียว
——————-
Deluxe Suite >> Turkish Theme
เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่ให้อารมณ์แบบสบายๆ แต่แฝงไปด้วยความประณีตหรูหรา สไตล์ตุรกี
——————
Deluxe Suite >> Chic Theme
ห้องที่ตกแต่งเก๋ไก๋ๆ สไตล์โมเดิ้ลๆ พื้นเป็นแบบปาเก้
————————–
นอกจากนี้ภายในตึกโอเชี่ยนวิงแห่งนี้ ยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายเลย เช่น
ห้องอาหาร เดอะ สยาม อีเลฟเฟ่น แอนด์ เรสเตอร์รอง
ให้บริการอาหารไทย และเครื่องดื่มคอกเท็ลที่ระเบียงด้านนอกซึ่งเปิดรับลมทะเล และมองเห็นวิวของอ่าวพัทยา นอกจากนี้ยังอาหารพื้นเมือง แกงเผ็ด และอาหารสุขภาพทั้งหลาย อย่างเช่น ผัดไทย ส้มตำ และต้มยำกุ้ง เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น.
——————————-
เดอะ กรีนเนอรี่
หากต้องการความเป็นส่วนตัว สะดวกสบายและดูดี ตรงห้องโถงชั้นล่าง ภายในโอเชี่ยนวิงแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่ง พร้อมเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มค็อกเทลที่โปรดปราน ท่ามกลางบรรยากาศของสวน เคล้าคลอไปกับเสียงเปียโนที่แสนไพเราะในยามเย็น
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-1.00 น.
————————–
ห้องอาหาร ซันไรส์ ซันเซท
ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ของทางโรงแรม ร้านอาหารแห่งนี้สามารถมองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ของมหาสมุทร และถนนคนเดิน พร้อมอิ่มอร่อยไปกับอาหารรสเลิศหลากหลายเมนูจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ยังมีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์แสนอร่อย พร้อมให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00-11.00 น.
ซันไรส์ ซันเซท เป็นร้านที่เหมาะสำหรับนั่งเล่น และเพลิดเพลินไปกับการดื่มกาแฟและรับประทานขนมเค้กในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือกลางคืน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
——————————-
บริเวณ LOBฺBY
—————————-
วิวภายนอกอาคารโอเชี่ยนวิงยามค่ำคืน
ทางเข้าด้านหน้าอาคาร
——————————-
Bali-Hai Bay The Sea ซีฟู้ด บาบีคิว บุฟเฟต์
สำรวจจนครบแทบทุกส่วนแล้ว ได้เวลามื้อเย็นพอดี ซึ่งมื้อนี้เราจะทานกันที่บริเวณนี้ ระเบียงติดชายทะเลนี้จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับบาบีคิวบุฟเฟต์ในตอนเย็น ซึ่งแขกทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารทะเลย่าง เนื้อหวานฉ่ำ อาหารเอเชีย สลัด อาหารนานาชาติ เย้ายวนใจด้วยของหวานอีกมากมาย และเครื่องดื่มเย็นฉ่ำชื่นใจ เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงคลื่นและลมทะเล ขณะที่ดื่มไวน์ และรับประทานอาหารทะเลสดใหม่ คลอไปกับการฟังเสียงดนตรีสด ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีในการนั่งชิลไปเรื่อยๆ พร้อมกับอาหารมื้ออร่อย สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร 038-428-678
ตบท้ายด้วยของหวาน อิ่มหน่ำสำราญกันเลยสำหรับค่ำคืนนี้ ^0^
>> ราตรีสวัสดิ์ <<
——————————
อรุณสวัสดิ์ พัทยา
เช้าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 59
ต้อนรับแสงแรกแห่งวัน ที่อ่าวพัทยา
สระน้ำหน้าห้องพักของเรา
ถ่ายจากมุมระเบียงห้องพักของเราเอง
มองจากมุมนี้จะเห็นจุดชมวิวเขาพระตำหนักด้วย สวยมากๆ และถ้าขับรถขึ้นไปยังเขาพระตำหนักแล้วเราจะเห็นแสงไฟของเมืองพัทยาแห่งนี้ได้โดยทั่ว สวยงามมากๆเลยหล่ะ
ช่วงสายๆ ได้เวลามือเช้าของเราแล้ว ซึ่งเราจะไปทานอาหารเช้ากันที่ ห้องอาหาร ซันไรส์ ซันเซท ซึ่งมีอาหารอร่อยๆจากทั่วทุกมุมโลกเลย จะเยอะแค่ไหน ไปดูกันเลย
จัดหนักจัดเต็มกับมื้อเช้าเสร็จแล้วก็กลับไปเก็บกระเป๋า เตรียมเช็คเอาท์ เพราะทางโรงแรมมีแพลนจะพาไปเที่ยวต่อ ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้น ตามไปดูกันเลยจ้า
ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม
559 Beach Road, Pattaya City Cholburi, 20150, Thailand
Bangkok Sales Office:02-2470123
โทร.: 038-428678
แฟ็กซ์: 038-428730
http://www.siambayshorepattaya.com
https://www.facebook.com/SiamBayshorePattaya
———————————-
อย่างที่ได้กล่าวตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า พัทยา นั้นมีที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็น
– มิโมซ่า (Mimosa) เมืองนอก จำลองมาจาก COLMAR หมู่บ้านในเมือง Alsace ของฝรั่งเศส
– พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ Art in Paradise
– ตลาดน้ำ 4 ภาค
– เมืองจำลองพัทยา (Mini Siam)
– ไร่องุ่น ซิลเวอร์เลค”(Silverlake)
– ปราสาทสัจธรรม (The Sanctuary of Truth)
– สวนสนุกพัทยาปาร์ค (Pattaya Park)
– พิพิธภัณฑ์ริปลีย์ส์ พัทยา (Ripley’s Believe It or Not Museum)
– พิพิธภัณฑ์หลุยส์ ทุสโซด์ส แวกซ์เวิร์ค (Louis Tussaud’s Waxworks)
– จุดชมวิวเขาพระตำหนัก (Pratumnak Viewpoint)
– พัทยา วอล์กกิ้ง สตรีท (Pattaya Walking Street)
– เกาะล้าน พัทยา
แต่ที่เราจะไปเที่ยวชมในทริปนี้ก็คือ
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร (Yansangwararam Temple)
ไหว้พระขอพร และชมความงดงามของพระอารามหลวง พระมหามณฑปพุทธบาท ภปร. สก. พระอุโบสถที่สร้างถวายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์ที่สร้างถวายราชวงศ์จักรี
———————————-
วิหารเซียน อเนกกุศลศาลา Viharn Sien (Anek Kuson Sala)
วิหารเซียน หรือ อเนกกุศลศาลา เป็นสถานที่รวบรวมงานศิลปะไทย-จีนชั้นสูงที่สำคัญของเมืองไทย ตัววิหารเป็นแบบจีนสูงสามชั้น ภายในมีรูปปั้นศิลปะจีนแบบต่างๆ เช่น ไซอิ๋ว เปาบุ้นจิ้น และสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ไปจนถึงมวยจีนของวัดเส้าหลิน และยังมีพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวองค์ใหญ่ไว้ให้สักการะ
———————————-
เขาชีจรรย์ (Cheejun Hill)
และที่สุดท้ายของทริปนี้ แวะสักการะพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาเขาหินปูนที่งดงามที่สุดในพัทยา ณ เขาชีจรรย์ ซึ่งเป็นการยิงเลเซอร์ลงบนหินจนเป็นพระพุทธรูปแบบประทับนั่งปางมารวิชัย มีความสูงถึง 109 เมตรเลยทีเดียว จนได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธฉายที่ใหญ่ทีสุดในโลก
จบทริปนี้และขับรถกลับบ้านด้วยความสบายใจ หลังจากได้มากราบไหว้ขอพรจากพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแล้ว
ลองเปรียบเทียบราคาโรงแรม สยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา กับ Traveloka ได้ครับ อีกทางเลือกหนึ่งในการจองที่พักออนไลน์ ปลอดภัย รวดเร็ว จองผ่านแอปได้ราคาถูกกว่าด้วยครับ และที่สำคัญมีโปรส่วนลดทุกอาทิตย์ ลองดูราคาโรงแรมสยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/siam-bayshore-resort-pattaya–1000000207218
ขอขอบคุณ โรงแรม สยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา ที่เอื้อเฟื้อทริปดีๆให้แก่เราในครั้งนี้ด้วยครับ
ทางตากล้องท่องเที่ยว ต้องขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม และหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
———————————-